Mafia
คำ นี้ใครหลายๆคนได้ยินแล้วคงแหยงๆ แน่นอนว่าความหมายของคนที่เรียกตัวเองว่ามาเฟีย
[Cosa Nostra:โคซา นอสตรา] ต้องไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ แต่ใครเล่าจะรู้บ้างว่าความหมายมันมาจากอะไร ต้นกำเนิดมาจากไหน(ในหัวข้อนี้ ขอพูดถึงมาเฟียอิตาลี) หากว่ากันตามประวัติศาสตร์ก็ต้องบอกว่า มาจากการล้มล้างระบอบศักดินา ซึ่งก็แน่นอนว่าบางคนได้ผลประโยชน์ บางคนก็เสียผลประโชยน์เช่นกัน เลยทำให้เกิด มาเฟีย ขึ้น ระบบกฎหมายในสมัยนั้นยังไม่เข็มแข็งพอ ประชาชนไม่มีความพร้อมพอ จึงทำให้มาเฟียเป็น รัฐบาลคู่ขนานกับรัฐบาลจริงๆคล้ายๆกับว่ารัฐบาลจริงๆ ทำผลประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่มอย่างระบบมาเฟียไม่ได้ คนบางกลุ่มจึงหันไปพึ่ง มาเฟีย ซึ่งก็มีบางกลุ่มไม่ยอมรับระบอบนี้ จึงถูกพวกมาเฟียขูดรีด ทารุณไร้ซึ่งการคุ้มครอง ซึ่งก็เหมือนกับในหนัง ก็คือ มาเฟีย เป็น ที่พึ่งของคนที่ไม่เชื่อในระบบที่รัฐบาลกำหนดมาให้ เช่นระบบตำรวจ จึงหันไปพึ่งมาเฟียแทน คำถามของคนบางกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ามา"มาเฟีย" ก็คือ
"ทำไมเราถึงต้องเชื่อในระบบกฎหมาย" คำว่า "กฎหมาย" มันก็แค่คำพูดบางอย่างที่ เราสมมุติกันขึ้นมาว่าเราต้องเคารพและปฏิบัติตาม ซึ่งบางอย่างก็ดีเพราะบัญญัติมาจากศีลธรรมจรรยา แต่ บางข้อก็เหมือนกับว่าสร้างขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการอะไรบางอย่างของคน บางกลุ่มเท่านั้นเอง เราก็คนเหมือนกันทำไมถึงจะบัญญัติกฎขึ้นมาไม่ได้บ้างล่ะ? ใช่ว่าผู้รักษากฎหมายจะปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดไม่มีโกงกินซะที่ ไหนกัน!!!! นี่อาจจะเป็นคำพูดของพวกเขาที่เรียกตัวเองว่ามาเฟีย และ ก็อาจจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเหตุผลเล็กๆที่ทำให้ก่อเกิดภาพยนตร์เรื่องนี้....
บัญญัติ 10 ประการของมาเฟีย
บัญญัติ 10 ประการของมาเฟีย
ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2007 ชาวซิซิเลียนได้ออกมาเปิดเผยบัญญัติ 10 ประการของมาเฟียโดยบอสมาเฟีย นามว่า Salvatore Lo Piccolo ให้สาธารณชนได้รับทราบ ด้วยเกียรติของมาเฟีย ซึ่งมีหัวข้อดังต่อไปนี้ :
- ห้ามเปิดเผยตัวตนกับศัตรู มันเป็นกิจที่บุคคลที่สามพึงกระทำ
- อย่าสนใจภรรยาของเพื่อน
- อย่าให้ตำรวจจับได้
- ห้ามไปเที่ยวผับและคลับ
- พึงระลึกเสมอว่าการเป็นมาเฟียต้องเรียกใช้งานได้เสมอ แม้ว่าภรรยาของตนจะต้องคลอดลูกก็ตาม
- ตำแหน่งเป็นสิ่งที่พึงเคารพ
- ภรรยาต้องได้รับการดูแลด้วยความเคารพ
- หากถูกถามต้องตอบแต่ความจริงเท่านั้น
- เงินของผู้อื่นหรือครอบครัวของผู้อื่นห้ามนำไปใช้เป็นการส่วนตัว
The Godfather Trilogy
The godfather เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องของ ชาวอิตาลี ที่อพยพมาอเมริกาแล้วมีครอบครัว ลงหลัก ปักฐานที่อเมริกา ตัวละครสำคัญๆ มีดังนี้
Vito Corleone
รับบทโดย Marlon Brando
Vito เป็นคนที่มีบุคคลิกเงียบครึม เยือกเย็นและ ฉลาด
จุดเริ่มต้นของการที่ Vito ได้ก้าวขึ้นมาเป็น
The Don (เป็นคำที่ใช้เรียกนำหน้าชื่อของเจ้าพ่อ)
ก็แค่เขาเป็น คนที่ชาวบ้านในละแวกที่เขาอาศัยอยู่นับหน้าถือตาเขา เพราะเขาเป็นที่พึ่งได้ดี ก็เท่านั้นเอง
ไม่ได้มาจากการฆ่าคนอย่างเลือกดเย็นไม่มีเหตุผล
หรือการค้ายาเสพติดใดๆทั้งสิ้น
Sonny Corleone
รับบทโดย James Caan เป็นลูกชายคนโตของ
Vito เป็นคนมีนิสัยอารมณ์ร้อน
Fredo Coeleone
รับบทโดย John Cazale เป็นลูกชาย
คนกลางของ Vito เป้นคนมีบุคลิก
ป๋ำๆเป๋อ ไม่ค่อยทันคน
Tom Hagen
รับบทโดย Robert Duvall
เป็นลูกบุญธรรมของ Vito เป็น
ทนายประจำตระกูล
Connie Corleone
ลูกสาวเพียงคนเดียว ของ Don Vito
รับบทโดย Talia Shire
Michael Corleone
รับบทโดย Al Pacino Michael
เป็นลูกคนเล็กของ Vito เป็นลูกชาย
คนเดียวที่บอกกับครอบครัวว่าจะไม่มีทาง
เป็นเหมือนพ่อเด็ดขาด
Kay Adams
รับบทโดย Diann Keaton
แฟนสาวของ Michael
The Godfather Trilogy Story
The Godfather เป็นเรื่องราวของครอบครัวชาวอิตาลีที่มีอิทธิพลในวงการเกือบทุกๆวงการของ สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น วงการภาพยนตร์ การเมือง ตำรวจ สื่อสารมวลชน ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของ Vito Corleone และ ตระกูล Corleone Vito มีสมญาว่า The Godfather หรือ Don เป็นคนที่มีผู้คนนับหน้าถือตาอย่างล้นหลาม เพราะด้วยความที่เป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี เปรียบเสมือน ที่พักพิงของผู้ถูกกฎหมายละเลย ผู้ที่มีปัญหาแล้วดูเหมือนว่าระบบของกฎหมายนั้นไม่รองรับความต้องการของพวกเขา แต่ ไม่ว่าคนเราจะดีในสายตาใครสักแค่ไหน ก็ยังต้องมีศัตรูอยู่ดี
"ยาเสพติด" นึกกันเร็วอาจจะไม่มีใครทราบหมดว่าโทษของมันคืออะไร? แต่พนันได้ว่าถ้าให้คนนึกกันเร็วๆ ถึงประโยชน์ของมันละก็ มั่นใจว่าทุกๆคนต้องตอบว่าไม่มีแน่นอน นี่เป็นจุดเปลี่ยนจุดใหญ่ๆเลยของ Don Vito ผู้ ยิ่งใหญ่ เมื่อมาเฟีย ครอบครัวหนึ่งได้ มาขอความร่วมมือจาก ตระกลู Corleone ในการร่วมกันหุ้นเงินในการค้ายาเสพติด และ ของใช้พลังอำนาจเส้นสายทางการเมืองของ Don Vito แต่ กลับกลายเป็นว่า Don Vito ไม่รับขอเสนอนั้น เขาให้เหตุผลว่า "เหล้า ผู้หญิง บ่อน ตำรวจยังไม่ตามจับเรา เพราะ มันเป็นของที่ทุกๆคนต้องการ แต่ถ้าเป็นยาเสพติด ทั้งตำรวจทั้งนักการเมืองจะไม่สนใจเราอีกเลย "
"Nothing Personal It's Just A Business !!!" (แปลอย่างเข้าใจ ว่า ไม่ได้แค้นส่วนตัว มันก็แค่ธุรกิจ)
นี่อาจเป็นคำพูดที่ เหล่ามาเฟียชอบใช้กันเวลาที่จะต้องฆ่าใครบางคนเพราะเข้ามาขวางทางการทำธุรกิจ
จึงเป็นเหตุเริ่มเรื่องของเหตุการณ์ทั้งหมด....
Part II
ในภาคสองเป็นการเล่าเรื่องของตัวละครสองตัวระหว่างสองยุค คือเป็นเรื่องราวของ Don Vito ในวัยหนุ่ม กับ Don Corleone คนปัจจุบัน ว่ามีที่มาเป็นยังไง Don Vito เติบโตมาโดยเห็น แม่แท้ๆ ถูกฆ่าตาย ตัวเองจึงอพยพจาก Corleone Italy ไปยัง สหรัฐอเมริกา แล้วเติบโตมาโดยการเป็นที่พึ่งให้กับชาวบ้านในละแวกนั้น แก้ไขปํญหาเล็กๆน้อย ทำให้ชาวบ้านรักใคร่ เคารพนับถือในขณะที่ Don Corleone คนปัจจุบัน มีแต่ผู้คนหวาดกลัวในอำนาจ ความโหดเหี้ยม ไร้ปราณี....
Part III
เล่าถึงความสำนึกผิดของสื่งที่เขาได้เคยกระทำในสมัยหนุ่ม
เป็นข้อพิสูจน์ว่าวันเวลาผ่านไป สำหรับใครบางคน "เวลา" "วัยวุฒิ"
ที่มากขึ้นเรื่อยๆทำให้สามารถ คิดอะไรที่สมควรจะคิด สมควรจะทำออกได้....
ที่มาของ The Godfather Trilogy
The Godfather นั้นมีที่มาจากนิยายชื่อเดียวกัน จากหนังแต่งนิยายผู้ล่วงลับ Mario Puzo นอกเหนือจากนั้น Marioยัง ได้ร่วมแต่ง บทแสดง ของ The Godfather 3 ภาค กับผู้กำกับ Francis Ford Coppola The Godfather เป็น นิยายตั้งแต่ปี 1969 เมื่อเปิดตัวครั้งแรกนั้น ก็ขึ้นอันดับยอดหนังทำเงินได้ทันที ติดอันดับของหนังสือขายดี 6 สัปดาห์ และอยู่อันดับสูงสุดถึง 21 สัปดาห์ ทำยอดขายได้มากกว่า 21 ล้านเล่มทั่วโลก
Francis กล่าวว่า The Godfather เป็นหนังเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งการทำหนังเรื่องนี้ก็ขับเคลื่อนไปด้วยครอบครัวราวกับเป็น อุตสาหกรรมครอบครัวเช่นกัน เช่น พี่สาวของเขา Talia มารับบทเป็น Conie พี่สาวของ Michael พ่อของเขา Carmine Coppola รับหน้าที่ Music Director ของหนังเรื่องนี้ทั้งสามภาค ลูกสาวของเขา Sofia Coppola รับบทเป็นลูกของ Connie (เป็นทารก)ในภาคสอง และรับบทเป็น ลูกของ Michael ในภาคสาม
เนื่องจาก Francis เป็นผู้กำกับที่ยังไม่โด่งดัง ณ เวลานั้น การทำหนังที่ต้อง ใช้ต้นทุนสูงนักแสดงชื่อดัง จึงค่อนข้างเป็นปัญหามากๆ ในขณะนั้น แต่ ผลก็กลับกลายมาเป็นดี หลังจากที่หนังออกไป ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รางวัล ออสการ์ ถึง 3 ตัวในภาคแรก ได้แก สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ Marlon Brando สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ Albert S. Ruddy และเนื้อเรื่องยอดเยี่ยม ได้แก่ Mario Puzo และ Francis Ford Coppola ในภาคสอง ได้อีกถึง 6 ตัว สาขา ดาราชายสมทบยอดเยี่ยมได้แก่ Robert de niro รับบทเป็น Don Vitoสมัยหนุ่ม ฉากยอดเยี่ยมDean Tavoularis Angelo P. Graham George R. Nelson ผู้กำกับยอดเยี่ยม Francis Ford Coppola เพลงประกอบยอดเยี่ยม Nino Rota Carmine Coppola ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Francis Ford Coppola Gray Frederickson Fred Roos และเนื้อเรื่องยอดเยี่ยม ได้แก่ Mario Puzo และ Francis Ford Coppola
ด้วยความที่หนังประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ภาคแรกปี 1972 ภาคสองในปี 1974 จึงมีเสียงเรียกร้องของแฟนๆ ที่ชื่นชอบในภาพยนตร์ มาเฟียเรื่องนี้ เรียกร้องให้ทำภาคสาม แต่ในทีแรกก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อผู้กำกับแต่แล้วเวลาผ่านไปถึง 18 ปี ก็ยังคงมีเสียงเรียกร้องจากแฟนคลับอยู่ ผู้กำกับและทีมงานก็เลยตัดสินใจทำ The Godfather Part 3 ขึ้นมา แต่ผลปรากฎว่า ได้รับแต่คำวิจารณ์ในแง่ลบ ซะส่วนมาก ว่าไม่มีความคลาสสิค และไม่ถูกใจแฟนคลับ แต่หนังก็ยังประสบความสำเร็จถึงแม้จะไม่เท่ากับสองภาคแรกและมีคำวิจารณ์ในแง่ลบ Part 3 นี้ก็ยังได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscars ถึง 7ตัว ด้วยกัน
The Godfather และกฎหมาย
มาเฟียคือผู้ที่ตั้งตนอยู่เหนืออำนาจของกฎหมาย แต่คำว่า "กฎหมาย" พวกเขาอาจจะคิดว่าทำไมถึงต้องเคารพ เรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ใช้ว่ากฎหมายจะสามารถแก้ไขได้เสมอไป บางคนที่ไปให้ พวกมาเฟียช่วยอย่างใน ภาพยนตร์เรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่ ต้องการให้แก้ไขในเรื่องราวที่ถูก กฎหมายละเลยทั้งนั้น ระบบของกฎหมายไม่สอดรับกับความต้องการของพวกเขา ทำไม "มาเฟีย" ถึงจะเป็นความถูกต้องไม่ได้
คลิปเสียงสัมภาษณ์ นักศึกษานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกี่ยวกับกฎหมายหลังจากได้ดู
The Godfather
Sequence 01 1 from Shane on Vimeo.
เพลงประกอบภาพยนตร์ The Godfather Credit Youtube.com
ตัวอย่างภาพยนตร์ The Godfather part I
ตัวอย่างภาพยนตร์ The Godfather part II
ตัวอย่างภาพยนตร์ The Godfather part III
ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้จัดทำ
ความคิดเห็นส่วนตัวของผม หลังจากที่ได้ดูทั้งสามภาค ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าความบันเทิงแฝงไปด้วย ปรัชญาการใช้ชีวิต โดยเฉพาะนักขาย นำหลักการของ The Godfather ไปใช้เป็นจำนวนมาก ผมว่าเรื่องราวทั้งหมดผู้สื่อสารต้องการจะสื่อว่า อะไรก็ตาม "ครอบครัวสำคัญที่สุด" ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ สำคัญเท่า ครอบครัวอีกแล้ว เรื่องของภาพ สำหรับในความคิดผม ผมคิดว่าเป็นอะไรที่คลาสสิคจริง บรรยากาศ ต่างๆ ทำให้เชื่อได้ว่า เรื่องราวมันเกิดขึ้นในช่วงเวลา สงครามโลกจริงๆ และที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ก็คือ เพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งอย่างที่ผมได้กล่าวไป ว่าได้พ่อของผู้กำกับ เป็นคนกำกับดนตรี ในทั้ง 3 ภาค โดยเฉพาะข้อนี้ผมรู้สึกประทับใจมาก เพราะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องครอบครัวเป็นหลัก และในความเป็นจริง ก็เป็นการทำงานกันโดยครอบครัวเหมือนกัน มันแสดงให้ผมเห็นว่า "ครอบครัว" สำคัญที่สุดจริงๆ
คะแนน 10/10
